เกิดเหตุการณ์น้ำกัดเซาะตลิ่งริมแม่น้ำยมบริเวณใต้สะพานหมู่ 6 บ้านท่าช้าง ตำบลทับผึ้ง อำเภอศรีสำโรง จังหวัดสุโขทัย ทำให้ตลิ่งขาดเป็นแนวยาวกว่า 20 เมตร ส่งผลให้น้ำทะลักเข้าท่วมบ้านเรือนในหลายหมู่บ้านในพื้นที่ใกล้เคียง โดยเฉพาะหมู่ 3 บ้านบางคลอง อำเภอเมืองสุโขทัย เกือบ 100 ครัวเรือนได้รับผลกระทบอย่างรุนแรงจากกระแสน้ำที่ไหลบ่าเข้าท่วมอย่างรวดเร็ว
นอกจากนี้ ถนนจรดวิถีถ่อง ซึ่งเป็นถนนสายหลักเชื่อมต่อระหว่างอำเภอสุโขทัยและศรีสำโรง ถูกน้ำท่วมสูงประมาณ 60 เซนติเมตร เป็นระยะทางกว่า 200 เมตร ทำให้เจ้าหน้าที่ต้องปิดการจราจรทั้งขาขึ้นและขาล่อง เพื่อป้องกันอันตรายต่อผู้ใช้เส้นทาง โดยเฉพาะบริเวณตั้งแต่สี่แยกไฟแดงท่าช้างจนถึงหน้าวัดศรีสังวร ซึ่งกระแสน้ำไหลแรงเพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุ นอกจากนั้นน้ำยังท่วมบ้านเรือนและร้านค้าของประชาชนฝั่งตะวันตกของถนน ซึ่งอยู่ใกล้กับแม่น้ำ ทำให้ต้องขนย้ายสิ่งของออกจากบ้านอย่างเร่งด่วน
ชาวบ้านหลายรายเคลื่อนย้ายของไม่ทัน ต้องทิ้งทรัพย์สินบางส่วนให้จมน้ำ นำเฉพาะของใช้ส่วนตัวติดตัวไปอาศัยบ้านเพื่อนหรือญาติในพื้นที่ปลอดภัย ขณะที่เจ้าหน้าที่กู้ภัยและชาวบ้านในพื้นที่พยายามช่วยเหลือและขนย้ายสิ่งของขึ้นที่สูงเพื่อป้องกันความเสียหายเพิ่มเติม
ความคิดเห็นและการวิเคราะห์
เหตุการณ์น้ำท่วมและการกัดเซาะตลิ่งบริเวณแม่น้ำยมครั้งนี้สะท้อนถึงปัญหาเชิงโครงสร้างและการจัดการทรัพยากรน้ำในพื้นที่ที่อาจยังไม่เพียงพอ ภาวะน้ำกัดเซาะตลิ่งเป็นผลจากการเพิ่มขึ้นของกระแสน้ำในช่วงฤดูฝน และความรุนแรงของกระแสน้ำที่ไม่ได้รับการควบคุมอย่างมีประสิทธิภาพ ทำให้เกิดความเสียหายทั้งต่อบ้านเรือนประชาชนและโครงสร้างพื้นฐาน เช่น ถนนสายหลักที่ต้องปิดการจราจรเนื่องจากความไม่ปลอดภัย
การปิดถนนจรดวิถีถ่องมีผลกระทบอย่างมากต่อการเดินทางและการค้าขายในพื้นที่ เนื่องจากเป็นเส้นทางหลักที่ใช้ในการสัญจรและเชื่อมต่อกับเมืองสุโขทัย การจัดการน้ำท่วมที่ไม่สามารถควบคุมสถานการณ์ได้อย่างรวดเร็วส่งผลให้ชาวบ้านต้องเสียหายทั้งด้านทรัพย์สินและความปลอดภัยส่วนบุคคล โดยเฉพาะกลุ่มที่ไม่สามารถเคลื่อนย้ายทรัพย์สินได้ทันเวลา
ข้อเสนอแนะ
ควรมีการวางแผนและพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานที่สามารถรับมือกับสถานการณ์น้ำท่วมได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น เช่น การเสริมแนวตลิ่ง ปรับปรุงระบบระบายน้ำ และการวางแผนรับมือน้ำท่วมในอนาคต รวมถึงการแจ้งเตือนภัยให้ชัดเจนและทันเวลาเพื่อให้ชาวบ้านสามารถเตรียมตัวได้อย่างเหมาะสม
การแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าจำเป็นต้องมุ่งเน้นไปที่การให้ความช่วยเหลือด้านที่พักชั่วคราว อาหาร และเครื่องใช้จำเป็นแก่ประชาชนที่ได้รับผลกระทบ ขณะเดียวกัน ควรเร่งฟื้นฟูเส้นทางการคมนาคมที่ถูกปิดและดำเนินการบรรเทาความเสียหายเพื่อให้การดำเนินชีวิตของประชาชนกลับเข้าสู่ภาวะปกติโดยเร็ว